4 มิถุนายน 2552

หลักการพยากรณ์แบบเลข 7 ตัว

หลักการพยากรณ์แบบเลข 7 ตัว

หลักการพยากรณ์แบบเลข 7 ตัวสิทธิการิยะฯ บุคคลใดใคร่ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์เลขแบบ 7 ตัว บุคคลนั้น เบื้องต้นพึงรู้หลักเกณฑ์ของการตั้งหลักฐาน เพื่อทำนายเสียก่อนเลขที่ได้มาตั้งฐาน ก็มาจากเลขของ วัน เดือน ปี เกิดของคนที่เราจะทำนายเขานั่นเอง ฉะนั้นฐานเลขสำหรับตั้งทำนายจึงมีข้อสังเกตดังนี้

วันเกิด เอามาตั้งเป็นฐานที่ 1
เดือนเกิด เอามาตั้งเป็นฐานที่ 2
ปีเกิด เอามาตั้งเป็นฐานที่ 3

1. ฐานของวันทั้ง 7
อธิบาย (1) ฐานที่ 1 วันเกิด ได้แก่วันทั้ง 7 วัน ท่านให้นับ
วันอาทิตย์เป็นเลข 1
วันจันทร์เป็นเลข 2
วันอังคารเป็นเลข 3
วันพุธเป็นเลข 4 วันพฤหัสเป็นเลข 5
วันศุกร์เป็นเลข 6
วันเสาร์เป็นเลข 7

อนึ่ง ผู้ใดเกิดวันอะไร ท่านให้เอาเลขของวันนั้นมาตั้งเป็นอันดับแรกเรียงต่อไป ๆ ตามลำดับจนครบ 7 วัน ดูตัวอย่างต่อไปนี้

อัตตะ หินะ ธะนัง ปิตา มาตา โภคา มัชฌิมา
คนเกิดวันอาทิตย์ เริ่มเลข 1 2 3 4 5 6 7
คนเกิดวันจันทร์ เริ่มเลข 2 3 4 5 6 7 1
คนเกิดวันอังคาร เริ่มเลข 3 4 5 6 7 1 2
คนเกิดวันพุธ เริ่มเลข 4 5 6 7 1 2 3
คนเกิดวันพฤหัส เริ่มเลข 5 6 7 1 2 3 4
คนเกิดวันศุกร์ เริ่มเลข 6 7 1 2 3 4 5
คนเกิดวันเสาร์ เริ่มเลข 7 1 2 3 4 5 6

พึงจำไว้ให้แม่นยำจนขึ้นใจว่า ไม่ว่าท่านจะเกิดวันอะไร ๆ ก็ตาม ให้ท่องจำหลักเกณฑ์ประจำตำแหน่งหลักเลขทำนายไว้ ซึ่งมี 7 หลักเช่นกัน คืออัตตะ หินะ ธะนัง ปิตา มาตา โภคา มัชฌิมาอย่าลืมว่า ทั้ง 7 คำนี้ คงฐานเดิม ไม่มีการเปลี่ยนไปตามวันแต่อย่างใด

คนเกิดวันอาทิตย์ 1 ตกที่ อัตตะ และคนเกิดวันเสาร์ 7 ก็ตกที่อัตตะ เช่นกัน รวมความว่า ใครเกิดวันอะไร เลขตัวนั้นก็เป็น อัตตะ แล้วไล่เลียงไปตามลำดับ จนครบเลขทั้ง 7 ตัว (โปรดดูช่องที่กำหนดทำนายประจำเลขวันเกิดไว้เบื้องต้นนั้น)อธิบายความหมายของคำ

1. อัตตะ หมายถึง ตัวเอง ตนเอง
2. หินะ หมายถึง ความต่ำช้า ความชั่ว เลวทราม มีแต่ทางเสีย
3. ธะนัง หมายถึง ทรัพย์สิน เงินทอง รายได้ผู้นั้น จะพึงมีพึงได้รับ
4. ปิตา หมายถึง พ่อ บิดา ที่ให้กำหนดมา อาจหมายรวมถึงพ่อเลี้ยงด้วย
5. มาตา หมายถึง แม่ มารดา ที่ให้กำเนิดมา อาจหมายรวมถึงผู้อุปการะเลี้ยงมาแต่เด็ก ๆ ด้วย
6. โภคา หมายถึง สมบัติพัสถาน ที่ดิน เรือกสวนไร่นา หรือกองมรดก ชี้ถึงฐานะบรรพบุรุษที่พอจะมียกให้ หรือเหลือเป็นมรดกตกทอดมาถึงตนหรือไม่มากน้อยเพียงไร
7. มัชฌิมา หมายถึง ลักษณะปานกลางไม่ดีนักแต่ก็ไม่เลวจนเกินไป

หมายเหตุ เป็นจดจำคำทำนายประจำวันตามฐานเลขทั้ง 7 ได้แล้ว ขอให้จำไวว่า จะมีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กันกับเลขประจำเดือน ปีอีก ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่าถ้าเลขวันไปเป็น เลขเดียวกันกับเดือนก็ดี หรือไปพ้องกับเลขประจำปีก็ดี หลักการทำนายจะบอกให้เรารู้ว่าบุคคลนั้นเป็นอย่างไร

2. ฐานของเดือนต่าง ๆ

อธิบาย 2 ฐานที่ 2 เดือนเกิด ขอให้จำไว้ว่า แม้เดือนเกิดจะมี 12 เดือนก็ตาม ท่านให้นำมาตั้งลงในฐานพยากรณ์เพียง 7 ฐานเท่านั้น แต่มิได้หมายความว่า จะทิ้งเดือนอื่นไป ก็หาไม่ คงนำเอามากำหนดรวมไว้ในฐานอื่น ๆ อยู่นั่นเองตามหลักโหราศาสตร์ ท่านให้นับเดือนเกิดตาม “จันทรคติ” กล่าวคือให้เริ่มนับเดือน

“ธันวาคม” เป็นเดือน 1 ดังนี้
เดือน มกราคม ก็จะเป็นเดือนที่ 2 โดยลำดับไปดูตัวอย่าง ดังนี้

เดือนธันวาคม กับเดือน กรกฎาคม ท่านให้กำหนดนับเป็นเดือนใช้เลข 1
เดือนมกราคม กับเดือนสิงหาคม “ 2
เดือนกุมภาพันธ์ กับเดือนกันยายน “ 3
เดือนมีนาคม กับตุลาคม “ 4
เดือน เมษายนกับเดือน พฤศจิกายน “ 5
เดือนพฤษภาคม (ไม่มีคู่) “ 6
เดือน มิถุนายน (ไม่มีคู่) “ 7

อีกนัยหนึ่ง ถ้าว่าแบบดังกล่าวจะจำได้ยาก จะนับตามลำดับก็ได้ กล่าวคือ
มกราคม ตรงกับเดือนจันทรคคติ เป็นเดือน 2 (ยี่)
กุมภาพันธ์ “ “ 3
มีนาคม “ “ 4
เมษายน “ “ 5
พฤษภาคม “ “ 6
มิถุนายน “ “ 7
กรกฎาคม “ “ 8
สิงหาคม “ “ 9
กันยายน “ “ 10
ตุลาคม “ “ 11
พฤศจิกายน “ “ 12
ธันวาคม “ “ 1 (อ้าย)

ข้อสังเกต หลักการพยากรณ์แบบเลข 7 ตัว เมื่อฐานมีเพียง 7 ฐาน แต่เดือนมี 12 เดือน ดังนั้น ท่านเกจิอาจารย์ผู้ชำนาญทางโหราศาสตร์ จึงกำหนดเอาเดือนที่ 7 ไปนับเริ่มต้นเป็นเดือน 1 ใหม่ หรือจะกล่าวว่า เดือน 8 ลบออก 7 เหลือ 2 เดือน 10 ลบออก 7 เหลือ 3 เดือน 11 ลบออก 7 เหลือ 4 เดือน 12 ลบออก 5 เมื่อลบอย่างนี้ก็จะได้เลขลงฐานทำนายได้ตามตัวอย่างแรกนั่นเอง เห็นจะไม่ยากเย็นอะไรสำหรับท่านที่คิดจะศึกษาเล่าเรียนทางหมอดูทางนี้

วิธีตั้งเลขตามฐาน ให้ถือตามหลักเลขวันเกิด คือ ใครเกิดเดือนอะไรตรงกับเลขอะไร ก็เอาเลขนั้นตั้งก่อน เรียงไปตามลำดับ ดูตัวอย่าง ดังนี้

คนเกิดเดือน 1 หรือ เดือน 8 ให้ตั้งเลข 1 ก่อน อย่างนี้
ตนุ กฎุมภะ สุหัชชะ พันธุ ปุตตะ หริ ปัตนิ
1 2 3 4 5 6 7
คนเกิดเดือน 2 หรือ เดือน 9 ให้ตั้งเลข 2 ก่อน อย่างนี้
2 3 4 5 6 7 1
คนเกิดเดือน 3 หรือ เดือน 10 ให้ตั้งเลข 3 ก่อน อย่างนี้
3 4 5 6 7 1 2
คนเกิดเดือน 4 หรือ เดือน 11 ให้ตั้งเลข 4 ก่อน อย่างนี้
4 5 6 7 1 2 3
คนเกิดเดือน 5 หรือ เดือน 12 ให้ตั้งเลข 5 ก่อน อย่างนี้
5 6 7 1 2 3 4
คนเกิดเดือน 6 หรือ ให้ตั้งเลข 6 ก่อน อย่างนี้
6 7 1 2 3 4 5คนเกิดเดือน 7 หรือ ให้ตั้งเลข 7 ก่อน อย่างนี้
7 1 2 3 4 5 6

อธิบายความหมายของคำ
1. ตนุ หมายถึง ตนตัวของตัวเอง (เหมือนคำว่า “อัตตะ” ของฐานวันเกิด)
2. กฎุมภะ หมายถึง ทรัพย์สิน (เหมือนคำว่า “ธนัง” ฐานของวันเกิด)
3. สุหัชชะ หมายถึง เพื่อนฝูง มิตรสหาย หมายรวมถึงคนที่สามารถช่วยเหลือ ในยามทุกข์ยากด้วย และอาจจะหมายความถึงผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ให้ความอนุเคราะห์เวลาขัดสนด้วย
4. พันธุ หมายถึง ญาติพี่น้อง เครือญาติทั้งฝ่ายบิดาและมารดา ให้หมายรวมถึง เครือญาติที่นับรวม 7 ชั่วโคตร มี ทวด ปู่ ย่า ตายาย พ่อแม่ ลุงป้าน้าอา ลูก หลาน ด้วย
5. ปุตตะ หมายถึง บุตร ลูก รวมทั้งลูกชาย หรือลูกสาว ให้รวมทั้งหลาน ๆ ด้วย
6. หริ หมายถึง ศัตรู ข้าศึก ให้หมายรวมถึง อุปสรรค สิ่งขัดขวางความสำเร็จ และความผิดหวังนานาประการด้วย (คำว่า “หริ บางตำราว่า “อริ” ซึ่งเหมือนกัน)
7. ปัตนิ หมายถึง คู่ครอง เนื้อคู่ คนที่เรารัก เพศตรงข้ามที่เราสนใจหรือเขามาสนใจเรา หรือคนที่เราปรารถนาจะแต่งงานด้วย

หมายเหตุ คงจำไดว่า ท่านเกิดเดือนอะไร เอาเลขประจำเดือนนั้น ๆ ตั้งก่อน เมื่อตั้งเรียงลำดับเลขครบ 7 ฐานแล้ว ก็จะตรงกับฐานของวันเดือนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น

3. ฐานของปีต่าง ๆ

อธิบาย 3 ฐานที่ 3 ปีเกิด เลขฐานปีเกิดก็คงมีลักษณะเดียวกันกับเดือนเกิด เพราะมี 12 ปี เท่ากับ 12 เดือนแต่ฐานเลข 7 ตัว มีเพียง 7 ฐาน ดังนั้น เกจิอาจารย์ ท่านจึงวางหลักเกณฑ์ตั้งเลขทำนายไว้เช่นเดียวกับเดือนกล่าวคือ ท่านให้นับปีชวด เป็นปีที่ 1 ได้แก่ เลขที่ 1 นับโดยลำดับไปโดยอย่างนี้

ปีชวด ตรงกับเลขประจำฐาน ที่ 3 คือเลข 1
ปีฉลู “ “ 2
ปีขาล “ “ 3
ปีเถาะ “ “ 4
ปีมะโรง “ “ 5
ปีมะเส็ง “ “ 6
ปีมะเมีย “ “ 7
ปีมะแม “ “ 8
ปีวอก “ “ 9
ปีระกา “ “ 10
ปีจอ “ “ 11
ปีกุน “ “ 12

วิธีตั้งเลขประจำฐานโดยปีที่เกิดมี 12 ปี ท่านให้เอาเลข 7 ลบเลขปีที่เกิน 7 ออก ให้เหลือไม่เกิน 7 ตัว เพื่อให้ครบตามฐานทั้ง 7 ดังนั้น ตั้งแต่ปีมะแม (8) เป็นต้นไป จึงต้องลบออกเสีย 7 เหลือเท่าใดให้นำไปตั้งตามลำดับให้ครบ 7 ตัว ตามฐานของแบบเลข 7 ตัว ต่อไปนี้ ดูตัวอย่าง

มรณะ สุภะ กัมมะ ลาภะ พยายะ ทาสี ทาสา
คนเกิดปีชวดหรือปีมะแม 1 2 3 4 5 6 7
คนเกิดปีฉลูหรือปีวอก 2 3 4 5 6 7 1
คนเกิดปีขาลหรือปีระกา 3 4 5 6 7 1 2
คนเกิดปีเถาะหรือปีจอ 4 5 6 7 1 2 3
คนเกิดปีมะโรงหรือปีกุน 5 6 7 1 2 3 4
คนเกิดปีมะเส็ง 6 7 1 2 3 4 5
คนเกิดปีมะเมีย 7 1 2 3 4 5 6

อธิบายความหมายของคำ
1.มรณะ หมายถึง ความตาย ความหมดหวังในชีวิต การหย่าร้าง ล้มละลายด้วย
2.สุภะ หมายถึง สิ่งดีงาม น่ารัก พร้อมด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียงเด่นในวงสังคม
3.กัมมะ หมายถึง การงาน ความขยันหมั่นเพียร หน้าที่ราชการ ตำแหน่ง ยศ ฐาน์บรรดาศักดิ์
4.ลาภะ หมายถึง โชคลาภ วาสนา ผลกำไร การลงทุน การติดต่อธุรกิจการ สอบไล่ เสี่ยงโชค
5.พยายะ หมายถึง ความเจ็บไข้ได้ป่วย สุขภาพร่างกาย โรคภัยพยาธิ ให้หมายรวมถึงอุปสรรคที่จะมาขัดขวางให้ต้องผิดหวังในวิถีชีวิตอีกด้วย (แต่มีความหมายอ่อนกว่า “หริ” ในฐานเดือน)
6.ทาสี หมายถึง หญิงข้าทาส หญิงคนใช้ ที่นำมาไว้ในบ้าน หรือให้หมายถึง ความสัมพันธ์ของเลขฐาน วัน เดือน ที่มาเป็นเลขเดียวกัน ทำให้สิ่งที่น่าจะดี กลับด้อยไป
7.ทาสา หมายถึง ข้าทาส บริวาร คนใช้ชาย หรือคนที่มาอาศัยอยู่ภายในบ้านที่เป็นเพศชาย

เมื่อท่านทราบการตั้งเลขครบทั้ง 7 ฐานแล้ว ที่นับว่าสำคัญก็คือ การพยากรณ์หรือการทำนาย นั่นเอง จะต้องเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ของตัวเลขจากฐานวันมาพ้องกับฐานเดือน และซ้ำกับฐานปี ซึ่งจะต้องเข้าใจความหมายของตัวเลขพร้อมกับ ความหมายของคำที่ประจำฐานแล้วละฐาน ถ้าดี มาสัมพันธ์กับดี ก็ทำนายไปในทางดี ถ้ามีดี 2 ฐาน เสีย 1 ฐาน ก็ทำนายค่อนข้างดี ปานกลาง ถ้าเสีย 2 ดี 1 ทำนายไปในทางเสีย ค่อนข้างลำบากหรืออาจพลาดหวัง มีอุปสรรคอย่างนี้เป็นต้น

วิธีตั้งเลขทั้ง 3 ฐานตัว

อย่างที่ 1 คนเกิดวันอาทิตย์ เดือนยี่ (มกราคม) ปีขาล (3) ตั้งเลขลงฐาน อย่างนี้
ฐานที่ 1 ฐานวันเกิด 1 2 3 4 5 6 7
ฐานที่ 2 ฐานเดือนเกิด 2 3 4 5 6 7 1
ฐานที่ 3 ฐานปีเกิด 3 4 5 6 7 1 2
รวมจำนวนเลขแต่ละช่อง 6 9 12 15 18 14 10

ข้อสังเกต เมื่อตั้งเลขครบ 3 ฐานแล้ว ให้รวมเลขจากฐานวัน ลงมาฐานเดือน มารวมยอดกับฐานปี จะได้ผลลัพธ์ ดังตัวอย่างที่เห็นอยู่นั้นวิธีทำนาย เบื้องแรก ให้ดูเลขจากฐานวัน ฐานเดือน และฐานปี ว่าตัวเลขที่เหมือนกันนั้น อยู่ในช่องความหมายของคำอะไรบ้าง

ในที่นี่ เลข 1 ฐานวันตก “อัตตะ” เลขที่ 1 ฐานเดือนตก “ปัตนิ” และเลขที่ 1 ฐานปีตก “ทาสี” ทำนายได้เลยว่า ผู้นั้นหลักฐานฝ่ายตนดี มีเมียไม่สู้ดี จะลำบากเยี่ยงทาส ถึงร่ำรวยก็ลำบากกาย อย่างนี้เป็นต้นดูเลข 2 ฐานวันตก “หินะ” เลข 2 ฐานเดือนตก “ตนุ” เลข 2 ฐานปีตก “ทาสี” ทำนายได้เลยว่า ผู้นั้นมีนิสัยนักเลง คบคนต่ำกว่าตน ว่านอนสอนยาก หัวดื้อ คนในบ้านจะไม่มีใครเขารักนับถือตนเลย เพราะตนประพฤติไม่ดีนั่นเอง อย่างนี้เป็นต้นต่อไปก็ดูเลข 3 จาก 3 ฐาน และเลข 4, 5, 6, 7 ทั้ง 3 ฐาน ก็จะทำนายได้ แต่วิธีที่จะทำนายได้ดี จำเป็นต้องจำเลขสัมพันธ์กันด้วย ซึ่งได้นำมากล่าวไว้ตอนท้ายเรื่องนี้แล้ว

ตัวอย่างที่ 2 คนเกิดวันจันทร์ เดือน 5 ปีชวด ตั้งเลข 3 ฐาน จะได้อย่างนี้

ฐานที่ 1 ฐานวันเกิด 2 3 4 5 6 7 1
ฐานที่ 2 ฐานเดือนเกิด 5 6 7 1 2 3 4
ฐานที่ 3 ฐานปีเกิด 1 2 3 4 5 6 7
รวมจำนวนเลขแต่ละช่อง 8 11 14 10 12 16 12

วิธีทำนาย หลักเกณฑ์การทำนาย สำคัญอยู่ที่ต้องรู้ว่า เลขวัน เดือน ปี ตรงกับความหมายของคำว่าอะไร จึงต้องจดจำชื่อแต่ละฐานคือ “อัตตะ หินะ ธะนัง ปิตา มาตา โภคา พยายะ ทาสี ทาสา” ทั้ง 3 ฐานให้ได้แม่นยำ แต่ละคำตกเลขอะไร พ้องกันหรือไม่แล้วเปิดไปดู “เลขสัมพันธ์”

ท้ายเรื่องนี้ตัวอย่างที่ 3 คนเกิดวันพฤหัส เดือน 9 ปีกุน ตั้งเลข 3 ฐาน จะได้อย่างนี้
ฐานที่ 1 ฐานวันเกิด 5 6 7 1 2 3 4
ฐานที่ 2 ฐานเดือนเกิด 2 3 4 5 6 7 1
ฐานที่ 3 ฐานปีเกิด 5 6 7 1 2 3 4
รวมจำนวนเลขแต่ละช่อง 12 15 18 7 10 13 9

ข้อสังเกต ทำไมวันพฤหัส จึงตั้งเลข 5 ก็เพราะว่า นับจากวันอาทิตย์เป็นเลข 1 ไปถึงวันพฤหัสตกเลข 5 จึงตั้งเลข 5 เป็นอันดับแรก พอถึง 7 ก็ตั้งเลข 1 ต่อไปจนครบ 7 ตัว เต็มฐานเดือน 9 ตรงกับปีวอก เลขเกิน 7 ลบออกจาก 9 คงเหลือ 2 จึงเอา 2 มาตั้งก่อนเรียงตามลำดับไปถึง 7 ให้เริ่มเลข 1 ใหม่ จนครบ 7 หลักเต็มฐานปีกุน เป็นปีที่ 12 ก็ให้เอา 7 ลบออกอีกเหมือนเลขเดือน เหลือ 5 จึงเอามาตั้งต้นเรื่อยไปจนครบ 7 หลักเต็มฐานข้อมูล

อ้างอิงจากหนังสือกร๊าฟชีวิตและหมอดูเลข 7 ตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น